บอกต่อ! วิธีการใช้งานเครื่องอบผ้าให้ถูกต้อง ยืดอายุการใช้งานดี

[Ailie662]

เครื่องอบผ้ากลายเป็นอีกไอเทมของหลาย ๆ คนที่ต้องมีใช้งานกันเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้ตัวเอง และสมาชิกในบ้าน กระนั้นเผื่อว่าบางคนกังวลเรื่องการใช้งานอยากรู้อยากใส่ใจถึงวิธีที่เหมาะสมถูกต้องเราไม่รอช้าที่จะพาทุก ๆ คนมาศึกษาอย่างละเอียด หวังช่วยยืดอายุการใช้งานไปในตัว
วิธีใช้งานเครื่องอบผ้าให้ถูกต้อง เพื่อยืดอายุใช้งาน
1. คำนวณความจุเครื่องและชิ้นผ้าให้ดี
เริ่มต้นคือต้องคำนวณความจุของตู้อบผ้าที่มีให้บริการกับสมาชิกภายในบ้านให้ดี ซึ่งหลาย ๆ ท่านต้องใช้งานบ่อยมาก หรือนาน ๆ ครั้ง ไปจนถึงสมาชิกที่ใส่เสื้อผ้าหลายชิ้นไหม เมื่อได้จำนวนผ้าที่เหมาะกับความจุถังก็จะช่วยให้การซักผ้าง่ายมากยิ่งขึ้น และต้องไม่ลืมเรื่องพื้นที่จัดวางด้วยเพื่อการวางที่ไม่เป็นปัญหา
2. รู้จักโปรแกรมต่าง ๆ ก่อนใช้งาน
แต่ละตู้อบผ้าก็จะมีโปรแกรมใช้งานแตกต่างกันออกไป อยากให้ได้ลองศึกษาการใช้งาน อาทิเช่น ระบบ Cupboard dry ที่ผ้าจะได้รับการอบแห้งสนิทสามารถแขวนเข้าตู้ได้เลยทันที, ระบบ Iron dry ผ้าอบที่มีความชื้นนิดหน่อย ทำให้การรีดง่ายดายมากกว่าเดิม หรือระบบ Extra dry ที่จะพอเหมาะกับผ้าที่มีความหนา ชิ้นใหญ่ อย่าง ผ้านวม ผ้าห่ม หมอน ฯลฯ
3. รู้ทริคก่อนใส่เสื้อผ้าลงถัง
ก่อนที่คุณ ๆจะใส่เสื้อผ้าลงเครื่องควรมีการสะบัด หรือกลับด้านให้ออกมาด้านนอกด้วย เพื่อเป็นการถนอมสีผ้า กระดุม หรือถ้าเสื้อผ้าชิ้นไหนมีซิปให้คุณ ๆรูดซิปให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ตัวซิปไปเกี่ยวเข้ากับผ้าตัวอื่น แบบนั้นจะทำให้เสื้อผ้าตัวอื่นเสียหายชำรุดได้
4. กระจายผ้าชิ้นเล็ก – ใหญ่ให้ทั่ว
สำหรับการกระจายชิ้นผ้าเวลาใส่ลงในเครื่องนั้นก็จะต้องกระจายให้ทั่วเครื่องไม่ควรให้ผ้าชิ้นใหญ่กองอยู่ที่เดียว หรือฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น เพราะว่าเครื่องอาจจะเสียสมดุลในการทำความสะอาดได้นั่นเอง ทั้งนี้ต้องใส่ผ้าลงเครื่องอบในปริมาณกำหนด อย่าใส่เยอะมากเกินไปเพราะว่าผ้าอาจจะไม่แห้งตามที่เราต้องการ และเครื่องก็จะเสียตามไปด้วย

กรณีเป็นเครื่องอบเฉย ๆ โดยเฉพาะหากไม่ใช่เครื่องใช้อบผ้าควรต้องใส่ผ้าที่มีลักษณะถูกปั่นหมาด ไม่ควรใส่ผ้าที่มีความเปียกชุ่มเด็ดขาด เพราะแบบนั้นคงไม่ใช่ผลดีต่อตัวเครื่องแน่นอน แล้วเครื่องอบผ้า ราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ เสียด้วย

การดูแลเครื่องอบผ้าก็จัดว่าเป็นสิ่งสำคัญ การทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของเครื่องภายในเวลาที่กำหนดเป็นสิ่งที่ควรทำ และต้องทำความสะอาดแผ่นกรองใยผ้าด้วย เพราะตัวกรองใยจะดักจับผ้าชิ้นเล็ก ๆ ที่หลุดออกจากผ้าได้ดี หยิบด้วยมือเปล่าได้ หรือท่านใดจะดูดฝุ่นก็ได้แต่ต้องใช้แรงดูดต่ำสุด จากนั้นก็ใส่กลับเข้าที่เดิม

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1302